5 เทคนิคการกำจัดกลิ่นอาหารตกค้างในห้องครัวแบบง่ายๆ (Simple ways to get rid of cooking smell in a small apartment)

          ช่วงนี้กระแสปลุกความเป็นเชฟในตัวคุณ กำลังมาแรง เรียกได้ว่าเผลอเข้าไปในโซเชียลมีเดียทีไรมักจะมีเมนูใหม่ๆ ให้ลอกการบ้านอยู่ตลอด เมื่อหลายคนมีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้นกิจกรรมยามว่างมาแรงในช่วงนี้ต้องยกให้ “การเข้าครัวทำอาหาร” ถึงแม้ข้อจำกัดของพื้นที่ครัวอย่างในคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำอาหารแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันนวัตกรรมเครื่องครัวได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่มากขึ้น ฮอตฮิตที่สุดตอนนี้คงเป็น หม้อทอดไร้น้ำมัน จะทำกะเพราหมูกรอบก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

          แต่สิ่งที่ยากกว่าคือ การกำจัดกลิ่นอาหารที่ตกค้างอบอวลภายในห้อง อาจทำให้หลายคนเบื่อๆ เซ็งๆ ไม่อยากทำอาหารไปเลย แต่อย่าได้กังวลไปทางทีมงาน Eggwhite รวบรวมเทคนิคกำจัดกลิ่นอาหารตกค้างแบบง่ายๆ ไม่ต้องออกแรงมากเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่อาศัยในคอนโดมาฝากกันค่ะ

1. ทำให้ครัวมีอากาศถ่ายเท (Keep your kitchen air flow)

          หากเราอาศัยในคอนโดมิเนียมที่มีส่วนครัวแยกเป็นสัดส่วน สามารถติดตั้งฉากกั้นระหว่างส่วนครัวออกจากส่วนอื่นของห้องเพื่อไม่ให้กลิ่นลอยไปติดห้องอื่นได้ เปิดหน้าต่างหรือประตูระเบียง และเปิดเครื่องดูดควันไว้ล่วงหน้าก่อนปรุงอาหารเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น แต่มีข้อควรระวังสักนิดก่อนเข้าครัว ควรสำรวจเพื่อนบ้านข้างห้องสักหน่อยว่าเขาเปิดหน้าต่างรับลมสบายๆ หรือตากผ้ารับแดดริมระเบียงอยู่หรือเปล่า แน่นอนกลิ่นอาหารจานอร่อยของเราอาจไปรบกวนเพื่อนบ้าน ดีไม่ดีจะเป็นเหตุให้ผิดใจกันได้ง่ายๆ เอาเป็นว่าต้องดูทิศทางลมให้ดีก่อนเข้าครัวค่ะ

2. ทำความสะอาดครัวทันทีเมื่อปรุงอาหารเสร็จ (Clean up the kitchen right away)

          ล้างอุปกรณ์เครื่องครัว เช็ดคราบสกปรกบนเตาและอ่างล้างจานให้สะอาดไร้สิ่งตกค้างหลังจากทำอาหารเสร็จ หากปล่อยทิ้งไว้นานกลิ่นของอาหารจะลอยไปติดตามผนังห้องและเฟอร์นิเจอร์เป็นคราบฝังลึก จะทำความสะอาดยากขึ้นไปอีก
และการทำอาหารในคอนโดมิเนียมหรือหอพัก หรือแม้แต่ครัวในบ้านของเรา ควรเตรียมถังขยะใบเล็กๆ วางข้างเขียง สำหรับใส่เศษอาหารสด และควรแยกขยะเปียกขยะแห้งออกจากกัน ตามวิถีแม่บ้านญี่ปุ่น เป็นไอเดียที่ดีในการช่วยคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลให้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงการใช้ถังขยะใบใหญ่ เพราะเรามักจะรอให้ถังขยะเต็มก่อนถึงจะนำขยะไปทิ้ง แน่นอนว่าเมื่อเศษอาหารทั้งขยะเปียกขยะแห้งมากองรวมกันจะเกิดความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์อบอวลในบ้านของเราตลอดเวลา

3.น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดา…สุดยอดเครื่องปรุงประจำครัว (Vinegar and baking soda are must-have items)

          น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาคือ must-have item ที่ต้องมีติดครัวไว้ค่ะ น้ำส้มสายชูนอกจากจะใช้ปรุงอาหารให้อร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ช่วยขจัดกลิ่นอาหารและทำความสะอาดครัวให้สะอาดเหมือนใหม่ด้วย เพียงแค่ใช้น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่น 1 ถ้วย บีบมะนาวแต่งกลิ่นหอมลงไปเล็กน้อย เทใส่ขวดฟ็อกกี้ไว้ฉีดทำความสะอาดขจัดคราบมันหลังจากทำอาหารและช่วยดับกลิ่นได้ดี
สำหรับเบกกิ้งโซดา ที่สายหวานต้องมีติดครัวขนมไว้ เจ้าส่วนผสมตัวนี้นอกจากจะช่วยให้ขนมของเราฟูนุ่มน่ารับประทานแล้ว ยังเป็นตัวช่วยดูดกลิ่นอับชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ ลองหาขวดโหลใสใบเล็กๆ เจาะรูที่ฝามาใส่ผงเบกกิ้งโซดา แล้วนำไปวางตามมุมต่างๆ ภายในครัว โดยเฉพาะจุดที่เราวางถังขยะจะช่วยลดกลิ่นเหม็นอับได้ และอีกหนึ่งประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา สามารถนำมา ใช้ทำน้ำยาทำความสะอาดเตาไมโครเวฟได้ง่ายๆ โดยใช้เบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่นอีก 1 ลิตร แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดทำความสะอาดภายในเตาไมโครเวฟไม่ให้เหลือคราบและกลิ่นอาหารตกค้าง

4. ทำความสะอาดและลดกลิ่นอับชื้นภายในตู้เย็นด้วยถ่านและกากกาแฟบด (Clean up and put a charcoal or ground coffee in the refrigerator)

          อีกมุมหนึ่งของห้องครัวที่มักจะมีกลิ่นอับชื้นก็คือภายในตู้เย็น ไม่ว่าจะมาจากเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ต่างๆ ที่ส่งกลิ่นออกมาภายนอกทุกครั้งที่เราเปิดตู้เย็น (ยิ่งช่วงนี้เปิดตู้กันบ่อยๆ กลิ่นก็ลอยเพิ่มมาพร้อมกับน้ำหนักตัวที่มากขึ้นตามไปด้วย) ดังนั้นเราควรทำความสะอาดตู้เย็นอยู่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ก็ควรหาเวลาว่างสำหรับเคลียร์วัตถุิบหรืออาหารหมดอายุที่เก็บไว้จนลืม นอกจากจะส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งในตู้เย็นแล้ว จะพลอยทำให้ของสดอย่างอื่นมีกลิ่นที่ไม่ดีตามไปด้วย อีกวิธีที่ช่วยลดกลิ่นในตู้เย็นได้คือ อาจจะนำถ่านสัก 2-3 ก้อน หรือกากกาแฟที่เหลือจากการดริป ห่อผ้าโปร่งบางแล้วนำไปวางไว้ในตู้เย็นเพื่อช่วยดับกลิ่นเหม็น โดยรูพรุนเล็กๆ บนผิวของถ่านจะช่วยดูดซับสารเคมีที่มีกลิ่นประเภทไฮโดรคาร์บอนเอาไว้ได้อย่างดี

5. ต้มน้ำสมุนไพรดับกลิ่น (Boil your favourite spices)

          อีกหนึ่งวิธีแสนง่ายที่ช่วยดับกลิ่นเหม็นอับในครัวได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ต้มน้ำร้อนให้เดือดจัดผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย เพิ่มกลิ่นหอมด้วยมะนาวฝานแว่น หรือเปลือกส้มก็ได้ เลือกกลิ่นตามใจชอบเอาลงไปต้มด้วยกัน แล้วนำมาวางข้างเตาขณะปรุงอาหาร ไอน้ำที่ระเหยจะช่วยลดความแรงของกลิ่นอาหารได้เป็นอย่างดี และหากในห้องของเรามีที่จุดน้ำมันหอมระเหย (Diffuser) ก็สามารถนำน้ำสมุนไพรต้มแต่งกลิ่นมาใช้แทนน้ำมันหอมระเหยได้เลยค่ะ โดยเฉพาะเมนูกลิ่นแรงแบบอาหารไทย ไม่ว่าจะทอดปลาเค็มเตรียมทานกับข้าวต้มร้อนๆ หรือจะผัดกระเพรากะเพรารสจัดจ้าน สามารถเติมส่วนผสมของตระตะไคร้ซอยและใบมะกรูดลงไปต้มด้วย จะช่วยยกระดับการดับกลิ่นไปอีกขั้นค่ะ

          การดูแลทำความสะอาดครัวและกำจัดกลิ่นตกค้างควรทำอย่างสม่ำเสมอ หวังว่าเคล็ดลับที่รวบรวมมาฝากนี้จะมีประโยชน์ วิธีการทำก็ทำได้ง่าย ด้วยวัตถุดิบที่สามารถหาได้ในครัวของเราเอง ทำให้ต่อไปนี้เพื่อนๆ ไม่ต้องกังวลกับกลิ่นอาหารตกค้าง และสนุกกับการเข้าครัวกันได้เต็มที่เลยค่ะ

—————————

เรื่อง: จิตติกานต์ เสียมหาญ

REFERENCES:
https://www.thousandhillsrealty.com/2019/06/28/how-to-quickly-remove-the-cooking-smell-in-your-apartment?fbclid=IwAR3SHok8Wx594AR8EI8I6YMSVn8xaNonzFAF-TECfMLEgO3PkNwTNr48mUU
https://www.5best.com/8-tips-on-how-to-get-rid-of-cooking-smells-in-a-small-apartment/?fbclid=IwAR0cPXGkIhTmyrYAAmdqRCUIbXtGmeGuWafzw3QTCrFIYxgNXMqz6jdIi_g
https://masteringkitchens.com/how-to-stop-cooking-smells-from-going-upstairs/?fbclid=IwAR0phEjHBDQ7ixZyeSTWcvqOat07KWspbM-tMSEs8NTCMHsHukxwZzjLlfo
https://www.homify.in/ideabooks/528616/how-can-i-clean-my-home-japanese-style